ถอดบทเรียนจากหนังสือเรียนที่ตนต่อต้าน หนังสือเรียนเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นสื่อที่มีความสะดวก โรงเรียนสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงกับทางสำนักพิมพ์ ปัจจุบันหลาย ๆ สำนักพิมพ์มีการออกแบบแผนการสอนให้กับครูด้วย เพิ่มความสะดวกในการเรียนการสอนมากขึ้นไปอีก แต่หนังสือเรียนที่หลายคนคาดหวังว่าจะเป็นหนังสือที่มีความถูกต้องสมบูรณ์ที่สุดกลับมีเรื่องที่ชาวเน็ตใช้คำว่า “แหก” ทัศนคติบ้ง ๆ ในหนังสือเรียนแทน ตัวอย่างความบ้งในหนังสือเรียนที่ได้รับการพูดถึง คำว่าบ้งเป็นภาษาพูดที่ใช้เรียกสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่เป็นไปตามจริต มีแนวคิดที่ผิดเพี้ยนและไม่อยู่บนพื้นฐานที่ควรเป็น หนังสือเรียนที่บ้งจึงเป็นหนังสือเรียนที่มีความแปลกของเนื้อหาและอาจจะมีเนื้อหาผิดเพี้ยน เช่น ขนมจีนกับการแต่งตัวไม่เหมาะสม โจทย์ข้อหนึ่งในหนังสือเรียนพระพุทธศาสนาถามเกี่ยวกับการแต่งกายของอดีตนักร้อง Kamikaze ขนมจีน กุลมาศ เจ้าของเพลงร็อคของคนแอบรักอย่างเพลงตามใจปาก ซึ่งภาพที่นำมาใช้ก็เป็นภาพปกอัลบั้มที่อยู่ในเสื้อยืดสีขาว กางเกงแล็กกิ้งสีดำ กรีดสโมกกี้อาย แต่เฉลยของหนังสือกลับบอกว่าการแต่งกายเช่นนี้ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผลว่าเป็นการแต่งกายแบบตะวันตก ปัจจุบันมีการเปลี่ยนภาพและแก้เฉลยแล้ว เสือร้องโฮกปิ๊บ บทกลอนวัยเด็กที่ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้พอกลับมาอ่านหลายคนต้องงง เมื่อมีท่อนหนึ่งในบทกลอนเขียนว่าเสือร้องโฮกปิ๊บ ที่หลายคนมองว่าเสือพันธุ์อะไรร้องโฮกปิ๊บ และโฮกปิ๊บมันมาจากไหนกัน ทำความเคารพก่อนเขียนเรื่องราชวงศ์ คำสั่งของแบบฝึกหัดนี้คือเติมหมายเลขหน้ารูปพระมหากษัตริย์ไทย แต่ก่อนทำจะต้องทำความเคารพก่อนจนหลายคนสงสัยว่าการทำความเคารพก่อนช่วยในประเด็นอะไร แต่เมื่อเหลือบมองตัวชี้วัดก็ถึงบางอ้อ เพราะเป็นคำสั่งที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดเอาไว้นั่นเอง ข้อสอบตีกรอบนักเรียน ประเด็นร้อนในปัจจุบันที่จะต้องได้รับการพูดถึงอย่างข้อสอบเด็ก ป.1 ที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและเรื่องเพศกับคำถามที่ว่าใครปฏิบัติตนได้เหมาะสมกับเพศตัวเองมากที่สุด และตัวเลือก 3 ตัวเลือกจะมีทั้งการทำอาหาร การชกต่อย และการแต่งหน้าContinue Reading

ไอเทมการเรียนที่ต้องมีในทุกยุคทุกสมัย หนังสือเรียนเป็นอุปกรณ์การเรียนชนิดหนึ่งที่ทุกปีจะต้องมีการซื้อหนังสือเรียนใหม่ให้ตอบสนองกับการเรียนที่สูงขึ้น ในอดีตพ่อแม่ต้องเสียเงินซื้อหนังสือเรียนใหม่ให้ลูก แต่ปัจจุบันมีโครงการหนังสือยืมเรียน หรือเรียนฟรี 15 ปีที่ช่วยออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับหนังสือเรียนลงไป แต่ปัจจุบันเริ่มมีการพูดถึงเนื้อหาในหนังสือเรียนมากขึ้น เราจึงมาดูกันว่ากว่าจะเป็นหนังสือเรียนแต่ละเล่มต้องผ่านอะไรมาบ้าง ประเภทของหนังสือเรียน หนังสือเรียนสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ หนังสือเรียนพื้นฐานและหนังสือเรียนเสริมประสบการณ์ แต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้ หนังสือเรียนพื้นฐาน หนังสือเรียนพื้นฐานจะเป็นหนังสือเรียนที่ใช้เรียนในวิชาที่ได้รับการบรรจุลงในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เช่น วิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษ วิชาวิทยาการการคำนวณ วิชาฟิสิกส์ หนังสือเรียนพื้นฐานเหล่านี้เมื่อผลิตออกมาแล้วจะต้องส่งให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบก่อนตีพิมพ์และวางจำหน่าย หนังสือเรียนเสริม หนังสือเรียนเสริมเป็นหนังสือเรียนที่สำนักพิมพ์จัดทำขึ้นเอง เพื่อใช้เสริมในวิชาหลัก หรือเป็นทางเลือกในวิชาเสริมก็ได้ โดยหนังสือเสริมความรู้จะไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจจากกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบกิจกรรมได้ตามต้องการ แต่ต้องอิงผลการเรียนรู้จากกระทรวงประกอบเท่านั้นเอง หนังสือแต่ละประเภทจะมีความพิเศษแตกต่างกันออกไป การพิจารณาเลือกหนังสือจะขึ้นอยู่กับคณาจารย์ประจำวิชาและผู้บริหารของแต่ละโรงเรียน ทำให้หนังสือของโรงเรียนแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ขั้นตอนการทำหนังสือเรียน การทำหนังสือเรียนจะมีความยากง่ายแตกต่างจากหนังสืออื่น ๆ เพราะการเขียนหนังสือเรียนจะต้องพิจารณาจากตัวผู้เรียน ธรรมชาติของวิชา และการประเมินผลจากกระทรวงศึกษาธิการ การเขียนหนังสือเรียนมีขั้นตอนโดยรวม ดังนี้ วางโครงร่างหนังสือ การวางโครงร่างหนังสือเป็นการที่ผู้เรียบเรียงกำหนดจำนวนหน้า ธีมของหนังสือ การนำเสนอต่าง ๆContinue Reading